Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
การใช้ยาในขณะตั้งครรภ์นั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะตัวยาหลายชนิดไม่เหมาะที่จะใช้ในขณะตั้งครรภ์ เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงที่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ หรืออาจกระตุ้นให้เกิดการแท้งบุตรได้
วันนี้ Enfa มีสาระน่ารู้เกี่ยวกับยาต้องห้ามสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์มาฝากค่ะ มาดูกันว่ายาที่ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์อย่างเด็ดขาดมีอะไรบ้าง และอันตรายของการใช้ยาต้องห้ามในขณะตั้งครรภ์เป็นอย่างไร
ยาสำหรับใช้ในการตั้งครรภ์ สามารถแบ่งออกได้หลายประเภท โดยจะจำแนกแตกต่างกันอย่างชัดเจน เรียงลำดับตั้งแต่ปลอดภัยสูงสุด ไปจนถึงอันตรายสูงสุด ได้แก่ Class A, Class B, Class C, Class D และ Class X
ยาละประเภทจะบอกถึงระดับความเสี่ยงต่อการใช้ยาในขณะตั้งครรภ์ ยาบางชนิดสามารถใช้ในขณะตั้งครรภ์ได้อย่างปลอดภัย แต่ยาบางชนิด ก็เป็นยาอันตรายรุนแรง หรือจัดอยู่ในกลุ่มยาที่คนท้องอ่อนห้ามกิน
โดยกลุ่มยาที่คนท้องห้ามกิน และกลุ่มยาที่คนท้องสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย รวมทั้งยาอันตรายที่ควรระวัง มีดังนี้
ยาสำหรับคนท้องในกลุ่ม Class A
เป็นยาที่มีความปลอดภัยต่อการใช้งานในขณะตั้งครรภ์ เพราะมีผลการศึกษาและผลการวิจัยรองรับอย่างเพียงพอและน่าเชื่อถือแล้วว่าไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ ไม่มีความเสี่ยงและไม่ก่อให้เกิดความผิดปกติต่อทารกในครรภ์ตลอดช่วงอายุครรภ์ทุกไตรมาส โดยยาในกลุ่ม Class A ที่สามารถใช้งานได้ในขณะตั้งครรภ์ เช่น Thyroxine, Ferrous, Folic acid, Vitamin A, B, C
ยาสำหรับคนท้องในกลุ่ม Class B
ยาในกลุ่มนี้ ที่จริงแล้วก็ถือว่าเป็นยาที่มีความปลอดภัยต่อการใช้งานในขณะตั้งครรภ์ แต่ว่าจะมีผลการศึกษาเฉพาะในสัตว์ทดลองเท่านั้น ยังไม่มีผลการศึกษาและผลการวิจัยต่อการใช้งานในมนุษย์อย่างเพียงพอ
โดยยาใน Class B ที่สามารถใช้งานได้ในขณะตั้งครรภ์ เช่น ยาในกลุ่ม Penicillin, Cephalosporin, Clindamycin, Bromhexine, CPM, Clotrimazole vag., Dimenhydrinate, Ibuprofen (ไตรมาส 2), Insulin, Budesonide MDI, Loratadine, Methyldopa, Paracetamol, Ranitidine, Terbutaline
ยาสำหรับคนท้องในกลุ่ม Class C
ยาในกลุ่มนี้ จัดว่าเป็นยาอันตราย จะใช้งานได้ก็ต่อเมื่อแพทย์ได้วินิจฉัยแล้วว่ามีประโยชน์ต่อการตั้งครรภ์มากกว่าจะก่อให้เกิดความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงรุนแรงในขณะตั้งครรภ์
ทั้งนี้เนื่องจากยาใน Class C นั้น มีการทดลองในสัตว์และพบว่ามีความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนของสัตว์ทดลอง อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีผลการศึกษาและผลการวิจัยต่อการใช้งานในมนุษย์อย่างเพียงพอ
โดยยาใน Class C ที่ก่อให้เกิดอันตรายในขณะตั้งครรภ์ เช่น ยาในกลุ่ม Acyclovir, Bisacodyl, CaCO3, Co-trimoxazole, Dextromethorphan, Domperidone, Fluconazole, Hydroxyzine, Hyoscine, Influenza vaccine, Norfloxacin, Omeprazole, Prednisolone, Salbutamol, Simethicone
ยาสำหรับคนท้องในกลุ่ม Class D
ยาในกลุ่มนี้ ต้องเน้นย้ำกันตัวโต ๆ เลยว่า เป็นยาอันตราย ไม่ควรซื้อมาใช้เอง สามารถใช้ได้เฉพาะกรณีจำเป็นตามที่แพทย์วินิจฉัยเห็นสมควรให้ใช้ได้เท่านั้น และโดยมากแล้วแพทย์จะใช้ยานี้ในกรณีที่จะต้องรักษาชีวิตของมารดาในกรณีที่คุณแม่มีภาวะเสี่ยงรุนแรง และไม่สามารถหายาที่ปลอดภัยกว่านี้มาใช้รักษาได้อีก หรือใช้แล้วไม่ได้ผลลัพธ์การรักษาตามที่ต้องการ
เนื่องจากยาใน Class D มีผลการศึกษาและผลการวิจัยที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าสามารถก่อให้เกิดความผิดปกติต่อทารกในครรภ์ได้ โดยยาใน Class X ที่ห้ามใช้ตอนตั้งครรภ์ เช่น ยาในกลุ่มของ Amitryptyline, Diazepam, NSAIDs (เมื่อใช้ในปริมาณมากช่วงไตรมาสที่ 3), Atenolol, Doxycycline, Tetracycline, Methimazole, Propylthiouracil, Phenobarbital, Phenytoin
ยาสำหรับคนท้องในกลุ่ม Class X
ยาในกลุ่มนี้จัดเป็นยาอันตรายต่อการตั้งครรภ์อย่างยิ่ง สตรีที่วางแผนจะตั้งครรภ์ มีความเสี่ยงที่อาจจะตั้งครรภ์ และสตรีมีครรภ์ห้ามใช้ยาในกลุ่มนี้เด็ดขาด เนื่องจากยาใน Class X นั้น มีผลการศึกษาและผลการวิจัยที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่าก่อให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์ ซึ่งพบทั้งในสัตว์ทดลองและในมนุษย์ด้วย
โดยยาในกลุ่ม Class X ที่ห้ามใช้ตอนตั้งครรภ์อย่างเด็ดขาด ได้แก่ Simvastatin, Ergotamine, Norethisterone, Contraceptive, Conjugated Estrogens, Depot Medroxyprogesterone Acetate (DMPA), Methotrexate, Warfarin
ดังนั้น สำหรับคุณแม่ท่านใดที่จำเป็นจะต้องกินยาเพื่อรักษาอาการป่วยหรือโรคประจำตัว ไม่ว่าจะยากิน ยาทา หรือยาใด ๆ ก็ตาม ควรปรึกษากับแพทย์ก่อนใช้ยาทุกครั้ง ไม่ควรซื้อยามากินเองหรือฟังตามรีวิวของคนอื่น เนื่องจากแม่แต่ละคนมีพื้นฐานสุขภาพและร่างกายที่แตกต่างกัน และตัวยาบางชนิดอาจไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพของคุณแม่ หรืออาจก่อให้เกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้
ยาหลายชนิด สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยเมื่อไม่ตั้งครรภ์ แต่กลายมาเป็นยาที่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ทันทีเมื่อตั้งครรภ์ สาเหตุก็เป็นเพราะยาตัวยาบางชนิดนั้นออกฤทธิ์ที่เป็นอันตรายต่อตัวอ่อนของทารกในครรภ์ เช่น อาจทำให้ทารกพิการ อาจเพิ่มความเสี่ยงของการแท้ง อาจทำให้การก่อแบ่งตัวของเซลล์ตัวอ่อนผิดปกติ ซึ่งจะมีผลทำให้อวัยวะและระบบร่างกายบางอย่างของทารกทำงานผิดปกติ อาจเกิดมาพิการ หรือเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์ได้ค่ะ
ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณแม่ตั้งครรภ์ตั้งครรภ์ไม่ควรซื้อยามากินเอง และไม่ควรใช้ยาต้องห้ามในขณะตั้งครรภ์ เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และทารกในครรภ์ ควรปรึกษากับแพทย์และเภสัชกรก่อนที่จะซื้อยาใด ๆ ก็ตามมาใช้งานนะคะ
ยาที่ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์โดยเด็ดขาด ส่วนมากจะอยู่ในกลุ่มยา Class X ซึ่งเป็นตัวยาที่ก่อให้เกิดความผิดปกติต่อทารกในครรภ์ มีผลการศึกษษที่ชี้ให้เห็นถึงอันตรายต่อการตั้งครรภ์ทั้งในมนุษย์และในสัตว์ทดลองอีกด้วย ซึ่งตัวยาที่ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์อย่างเด็ดขาด ได้แก่ Simvastatin, Cafergot, Primolute-N, Contraceptive, Premarin, DMPA, Methotrexate, Warfarin
หากคุณแม่จำเป็นจะต้องใช้ยาในระหว่างตั้งครรภ์ ควรปฏิบัติดังนี้ เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และทารกในครรภ์
การใช้ยาในขณะตั้งครรภ์ถือว่ามีความเสี่ยง คุณแม่ควรปรึกษากับแพทย์และเภสัชกรก่อนทุกครั้ง เพื่อให้สามารถใช้ยาได้อย่างปลอดภัย และไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับทารกในครรภ์
นอกจากเรื่องการใช้ยาที่คุณแม่จะต้องให้ความสำคัญและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดแล้ว เรื่องของโภชนาการและอาหารการกิน ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณแม่จะมองข้ามไม่ได้ค่ะ
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ทั้งเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ และธัญพืชต่าง ๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ ช่วยให้สุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์แข็งแรง นอกจากนี้ ยังสามารถเสริมด้วยนมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ดีเอชเอ โฟเลต โคลีน และแคลเซียม
Enfa สรุปให้ รกคืออวัยวะที่สำคัญมากในการตั้งครรภ์ซึ่งทำหน้าที่รองรับการเจริญเติบโตของทารกตลอด 40...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ รกพันคอเด็ก คือ ภาวะที่สายสะดือพันรอบคอทารกในครรภ์ ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการที่ทารกเคลื...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ แพ้ท้องหนักมาก กินอะไรไม่ได้เลย อาจส่งผลให้คุณแม่มีน้ำหนักตัวที่ลดลงอย่างรวดเร็ว มี...
อ่านต่อ