
Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องแปลก เรื่องว้าว เวลาที่มีใครก็ตามพูดถึงประสบการณ์ในการกลืนน้ำอสุจิ หรือเชื่ออย่างจริงจังว่าการทาอสุจิบนใบหน้าจะทำให้หน้าใส หรือเชื่อถึงขนาดที่ว่า ถ้าดื่มน้ำอสุจิจะทำให้ท้องได้ ฟังดูอะเมซิ่งและเหลือเชื่อมากทีเดียว แต่เรื่องแบบนี้เป็นแค่เรื่องขำ ๆ ที่เล่าต่อ ๆ กันมา หรือว่ามีคนทำแล้วได้ผลจริงกันแน่นะ
น้ำอสุจิ เป็นของเหลวที่สร้างขึ้นจากเซลล์สืบพันธุ์เพศชาย ประกอบไปด้วย น้ำ พลาสม่า และมูกเหลว
โดยในน้ำอสุจิมีปริมาณแคลอรีราว ๆ 5-25 แคลอรี ทั้งยังมีสารอาหารสำคัญอย่าง:
เชื่อว่าคงมีคนสงสัยกันอยู่บ่อย ๆ ว่าน้ำอสุจิกินได้ไหม? ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วแม้ว่าในน้ำอสุจิจะมีสารอาหารที่ดูจะเป็นสารอาหารสำคัญต่อร่างกายของเราก็จริง แต่...น้ำอสุจิก็ไม่ใช่แหล่งของสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายคนเราแบบเดียวกับที่เรากินเนื้อสัตว์ ผัก และผลไม้ แถมปริมาณน้ำอสุจิเพียงเท่านั้น ก็ไม่ได้มากเพียงพอที่จะช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรงหลังจากกินเข้าไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าการกลืนน้ำสุจิจะไม่ได้ส่งผลอันตรายรุนแรงถึงขนาดว่าห้ามดื่มห้ามกินเข้าไปโดยเด็ดขาด แต่...ก็ไม่ได้หมายความว่าน้ำอสุจิจะไม่มีอันตรายเลย
เพราะการกลืนน้ำอสุจิยังมีความเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อยู่ โดยเฉพาะถ้าเจ้าของน้ำอสุจินั้นมีปัญหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อยู่แล้ว ก็ยิ่งเสี่ยงที่คุณจะได้รับเอาเชื้อนั้นมาด้วย
ดังนั้น ก่อนจะไปกลืนน้ำอสุจิของใคร โปรดมั่นใจก่อนว่าจะไม่ได้รับของแถมที่ไม่พึงปรารถนากลับมาด้วย
อันดับแรกเราจะต้องมาลำดับขั้นตอนของการตั้งครรภ์โดยธรรมชาติกันใหม่ การตั้งครรภ์เกิดขึ้นก็ต่อเมื่อคนสองคนมีเซ็กซ์กันโดยไม่ป้องกันในวันที่มีการตกไข่ ทำให้อสุจิกับไข่มาเจอกัน ปฏิสนธิกัน และย้ายไปฝังตัวที่โพรงมดลูก ก่อนจะค่อย ๆ เข้าสู่ช่วงการตั้งครรภ์และทารกค่อย ๆ โตขึ้นจนกระทั่งถึงวันคลอด
จะเห็นได้ว่า ไม่มีห้วงเวลาใดเลยที่การกลืนน้ำอสุจิเข้าไปในท้องจะทำให้อสุจิกับไข่ได้พบกันและปฏิสนธิกัน เพราะสองเรื่องนี้อยู่คนละกระบวนการกัน การกลืนอสุจิเข้าไปนั้นเรียกได้ว่าเข้าสู่กระบวนการย่อยอาหาร แต่การที่อสุจิกับไข่มาเจอกันจากการมีเซ็กซ์ ถือเป็นกระบวนการสืบพันธุ์
ดังนั้น การมีเพศสัมพันธ์ใดก็ตามที่อสุจิกับไข่ไม่ได้มาเจอกันที่ท่อนำไข่และมีการปฏิสนธิกัน ก็จะไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นแน่นอน ส่วนการมีเซ็กซ์ทางทวารหนัก เซ็กซ์ทางปาก หรือต่อให้จะกินน้ำอสุจิสักแก้วหรือสองแก้ว การตั้งครรภ์ก็จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้
รสชาติของน้ำอสุจินั้นจะมีความเฉพาะตัวและแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตของบุคคลนั้น ๆ กล่าวคือ:
การกลืนอสุจิแม้จะไม่อันตรายถึงขั้นเสียชีวิต แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะติดโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ คนที่กลืนน้ำอสุจิเข้าไปอาจเสี่ยงที่จะเป็นโรคเริม ซิฟิลิส หรือโรคหนองในจากการมีเพศสัมพันธ์ทางปาก
มากไปกว่านั้น การทำออรัลเซ็กซ์ รวมถึงการกลืนอสุจิ ยังเสี่ยงต่อการการได้รับพาหะของไวรัส (Human Papillomavirus หรือ HPV) ซึ่งแม้ว่าโดยปกติแล้วเราจะตรวจไม่พบ HPV ในน้ำอสุจิกันบ่อยนัก แต่ก็ยังถือว่าเสี่ยงที่จะได้รับเชื้ออยู่ดี
อีกทั้งเชื้อไวรัสบางสายพันธุ์ที่อยู่ในน้ำอสุจิก็ยังสามารถทำให้เกิดมะเร็งลำคอได้เหมือนกัน แม้ว่าจะเกิดขึ้นได้ยากมากก็ตาม
ส่วนการรับเชื้อไวรัสเอชไอวี (Human Immunodeficiency Virus) จากการมีเพศสัมพันธ์ทางปากนั้น เป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้ยาก หรือพบได้ไม่บ่อย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นไปไม่ได้นะคะ จึงอาจเรียกได้ว่าการกลืนน้ำอสุจินี้ มีของแถมแบบสุ่มกาชาปองที่ไม่พึงปรารถนารออยู่ไม่น้อยทีเดียวค่ะ
คงไม่ถึงกับจะเรียกว่าเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพที่ควรจะปฏิบัติกันเป็นกิจวัตร เพราะสารอาหารในอสุจินั้นก็อย่างที่กล่าวไปว่า ไม่ได้มากพอที่จะทำให้ร่างกายแข็งแรง อีกทั้งยังเสี่ยงได้รับเชื้อไวรัสของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มากกว่าจะได้รับประโชน์
อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรที่ไร้ประโยชน์ไปเสียหมด และไม่มีอะไรที่จะให้ประโยชน์แค่เพียงอย่างเดียว การกลืนน้ำอสุจิก็ถือว่ายังพอมีข้อดีที่เป็นประโยชน์อยู่บ้าง เพราะมีแนวโน้มว่าการกินน้ำอสุจิอาจมีส่วน
ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น
เนื่องจากมีผลการวิจัยหลายชิ้นที่พบว่าภายในน้ำอสุจินั้นมีสารกล่อมประสาทตามธรรมชาติปะปนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเอ็นโดรฟิน เอสโทรน โปรแลคติน ออกซิโตซิน ไทโรโทรปิน และเซโรโทนิน ซึ่งสารเหล่านี้มีส่วนช่วยกระตุ้นอารมณ์และความรู้สึกพึงพอใจได้
มากไปกว่านั้น ยังเคยมีการทำวิจัยจาก State University of New York at Albany ที่สำรวจจากอาสาสมัครผู้หญิงจำนวน 293 คน เพื่อดูว่าการสัมผัสกับน้ำอสุจิโดยตรง แบบที่ไม่มีถุงยางอนามัยครอบอยู่ที่อวัยวะเพศ พบว่าผู้ที่สัมผัสกับน้ำอสุจิโดยตรงจากองคชาตมีอารมณ์ดีขึ้นและมีอาการซึมเศร้าลดน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม การสวมถุงยางสำหรับออรัลเซ็กซ์ การสวมถุงยางอนามัยเพื่อการคุมกำเนิด และเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นนะคะ
การมีน้ำอสุจิน้อย แน่นอนว่าส่งผลต่อการมีลูกแน่นอน หรืออาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะมีลูกยาก เพราะเมื่อน้ำอสุจิมีน้อย ปริมาณของตัวอสุจิก็จะน้อยตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม มีผู้ชายหลายคนที่ประสบปัญหาน้ำอสุจิน้อย แต่ยังสามารถมีลูกได้เช่นกัน
ดังนั้น หากมีปัญหาน้ำอสุจิน้อย ควรหาโอกาสไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยว่ามีความเสี่ยงของภาวะมีบุตรยากหรือไม่ เพื่อที่แพทย์จะได้แนะนำแนวทางการรักษาที่ถูกต้องต่อไป
เป็นเรื่องที่ไม่ใช่แค่พูดกันเอาตลก แต่ว่ามีคนทำจริง ๆ และเคลมว่าช่วยให้หน้าใสได้จริง ๆ เพียงแต่ว่าไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เพียงพอจะแนะนำ รับรอง และสนับสนุนว่าการเอาน้ำอสุจิทาหน้าจะช่วยในเรื่องของผิวพรรณสุขภาพดีได้
อสุจิมีแคลอรีประมาณ 5-25 แคลอรี ซึ่งปริมาณของน้ำอสุจิที่หลั่งออกมาในแต่ละครั้งนั้น ถ้าพูดถึงในแง่ของการกินน้ำอสุจิ ก็แน่นอนว่ามันไม่ได้มีปริมาณมากพอที่จะส่งผลต่อน้ำหนักของผู้หญิง หรือส่งผลให้ผู้หญิงอ้วนขึ้นได้ค่ะ
แต่ถ้าพูดถึงในแง่ของน้ำอสุจิที่เข้าไปทำการปฏิสนธิและเกิดการตั้งครรภ์ อันนี้ก็ชัดเจนว่ามีผลทำให้รูปร่างและน้ำหนักของผู้หญิงเปลี่ยนไปตามอายุครรภ์และขนาดของทารกที่เพิ่มมากขึ้นในแต่ละเดือนค่ะ
อสุจิโดยทั่วไปจะมีสีขาวเทา หรือขาวขุ่น แต่ถ้าอสุจิมีสีแดง อาจหมายถึงการอักเสบที่ต่อมลูกหมาก หรือมีเลือดไหลปนออกมาจากการบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะเพศชาย
ส่วนอสุจิที่มีสีเหลือง หรือสีเขียว อาจเกิดจากการติดเชื้อ หรือเป็นผลพวงมาจากการกินยา หรือวิตามินต่าง ๆ
น้ำอสุจิประกอบด้วยน้ำ แร่ธาตุ โปรตีน เอนไซม์ต่าง ๆ รวมถึงฮอร์โมนที่หลากหลาย จึงส่งผลให้อสุจิออกมาเป็นสีขาวขุ่นหรือขาวนวล
น้ำอสุจิที่มีรสออกเปรี้ยว อาจเกิดจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ชอบดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ยาสูบ หรือยาต่าง ๆ สามารถส่งผลให้น้ำอสุจิมีรสเปรี้ยวได้
Enfa สรุปให้ ครอบครัวอบอุ่น คือ ครอบครัวที่อบอวลไปด้วยความรัก ความเข้าใจ ให้ความช่วยเหลือสนับสนุ...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ สวนสนุกเด็ก มีส่วนช่วยบรรเทาความเครียด ทำให้ลูกผ่อนคลาย เปิดโอกาสให้ลูกได้เคลื่อนไห...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ Gen Beta หรือ Generation Beta เป็นชื่อเรียกช่วงวัยของเด็กซึ่งจะเติบโตขึ้นในยุคที่ เ...
อ่านต่อ