Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
เลือดออกขณะตั้งครรภ์ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งสาเหตุโดยทั่วไปที่ไม่ได้รุนแรงมากนัก แต่โดยมากแล้วเลือดออกตอนท้องมักจะเป็นหนึ่งในอาการผิดปกติของการตั้งครรภ์ และส่วนใหญ่มักเป็นสัญญาณความเสี่ยงที่อันตรายและจำเป็นต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาในทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายทั้งต่อแม่และทารกในครรภ์
โดยทั่วไปเวลาพูดถึงอาการเลือดออกตอนตั้งครรภ์ คุณแม่คนไหนได้ฟังก็รู้สึกใจเสียกันทั้งนั้นค่ะ แต่สำหรับคุณแม่ที่เพิ่งเริ่มตั้งครรภ์อ่อน ๆ มีมูกเลือดออกทางช่องคลอดแต่ไม่ปวดท้อง
อาการลักษณะนี้ถือว่าไม่อันตรายค่ะ เพราะเกิดจากทารกฝังตัวอ่อนในโพรงมดลูก ซึ่งการฝังตัวนี้อาจจะไปกระทบกับเส้นเลือดในมดลูก ทำให้มีเลือดไหลออกมา ซึ่งกรณีนี้มักจะพบได้ในช่วง 3-4 สัปดาห์หลังจากการมีประจำเดือนครั้งสุดท้าย
อย่างไรก็ตาม การไม่ประมาทถือว่าเป็นการป้องกันตนเองที่ดีที่สุด หากมีเลือดออกทางช่องคลอด ไม่ว่าจะอายุครรภ์เท่าไหร่ก็ตาม จะมีอาการรุนแรงร่วมหรือไม่มีอาการใด ๆ ร่วม ก็ควรไปพบแพทย์โดยเร็วเพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยดูก่อนว่าเลือดออกที่ว่านี้เกิดจากอะไร รุนแรงมากน้อยเพียงใด
ตั้งครรภ์แล้วมีเลือดออก สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุค่ะ ทั้งสาเหตุที่อันตราย และสาเหตุโดยทั่วไปที่ไม่น่ากังวล ไม่ว่าจะเป็น
• การฝังตัวอ่อน ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ คุณแม่อาจมีเลือดออกทางช่องคลอด เกิดจากการฝังตัวอ่อนในมดลูก และกระทบกับเส้นเลือดฝอยในมดลูก ทำให้มีเลือดออกกะปริบกะปรอย
• การมีเพศสัมพันธ์ คนท้องสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ทุกช่วงอายุครรภ์ค่ะ และบางครั้งการร่วมรักก็สามารถทำให้เกิดเลือดออกทางช่องคลอดได้ โดยเฉพาะถ้าหากมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง
• การแท้งบุตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไตรมาสแรก หรือช่วงอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ คุณแม่มีโอกาสแท้งบุตรสูง โดยหลังจากที่แท้งแล้ว ร่างกายจะขับเลือดและเซลล์เนื้อเยื่อตัวอ่อนออกมาทางช่องคลอด
• การตั้งครรภ์นอกมดลูก แม่บางคนมีการตั้งครรภ์นอกมดลูก และมีการฝังตัวอ่อนอยู่นอกมดลูก ทำให้มีเลือดไหลออกทางช่องคลอดพร้อมกับอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น
• การมีเพศสัมพันธ์ในขณะตั้งครรภ์ โดยเฉพาะถ้าหากมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรงเกินไป อาจทำให้มีเลือดออกทางช่องคลอดได้
• การติดเชื้อในช่องคลอด การอักเสบ หรือการติดเชื้อต่าง ๆ ในช่องคลอด อาจส่งผลให้เกิดเลือดออกได้ในขณะตั้งครรภ์
• ภาวะรกเกาะต่ำ คือภาวะที่รกเลื่อนลงมาเกาะที่บริเวณปากมดลูกจากปกติจะอยู่ด้านบน ภาวะเช่นนี้จะทำให้มีเลือดออกทางช่องคลอด มักพบได้ในปลายไตรมาส 2 และช่วงต้นของไตรมาส 3
• ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด คือภาวะที่รกหลุดออกจากผนังมดลูกก่อนถึงกำหนดคลอด ทำให้มีเลือดไหลออกมาทางช่องคลอด จัดว่าเป็นภาวะที่อันตรายต่อแม่และเด็ก
• การคลอดก่อนกำหนด การคลอดก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์ จะเรียกว่าเป็นการคลอดก่อนกำหนด ดังนั้น คุณแม่หลายคนที่มีเลือดออกในระยะก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์ อาจเป็นสัญญาณของการคลอดก่อนกำหนด
• ปากมดลูกหลวม คือภาวะที่ปากมดลูกมีการขยายตัวเร็วเกินไป ลักษณะเช่นนี้เสี่ยงที่จะก่อให้เกิดการคลอดก่อนกำหนดด
• การแท้งบุตร ช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 คุณแม่หลายคนอาจเกิดการแท้งบุตรได้ ซึ่งการแท้งหลังอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ มักจะเรียกว่าภาวะตายคลอด
โดยทั่วไปแล้วเลือดที่ออกในขณะตั้งครรภ์ก็มักจะมีสีแดง แต่บางกรณีก็อาจจะพบว่าเฉดสีแดงของเลือดที่ไหลออกมาทางช่องคลอดในขณะตั้งครรภ์นั้นมีความแตกต่างที่อาจก่อให้เกิดความกังวลได้ ไม่ว่าจะเป็น
กรณีที่เลือดออกทางช่องคลอด และเลือดนั้นมีสีคล้ำ หรือมีสีน้ำตาล ให้คุณแม่รีบไปพบแพทย์ เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและอัลตราซาวนด์ว่าเลือดสีน้ำตาลที่ไหลออกมานี้เกิดจากอะไร เพราะอาจเป็นไปได้หลายกรณี เช่น
• เมื่ออัลตราซาวนด์แล้วพบว่าเด็กมีชีวิต มีหัวใจเต้นตามปกติ เลือดสีน้ำตาลที่ไหลออกมานี้ มักไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ ค่ะ
• กรณีที่มีเคยอัลตราซาวนด์แล้วพบว่าทารกในครรภ์ปกติ แต่คุณแม่ยังมีเลือดสีน้ำตาลออกมาไม่หยุด ก็ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมว่ามีความผิดปกติใดที่มดลูกหรือเปล่า เพื่อจะได้รับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป
• บางครั้งเลือดสีน้ำตาลที่ไหลออกมา อาจเป็นเพียงเลือดเก่าที่คั่งค้างอยู่ภายในช่องคลอด และเพิ่งไหลออกมา ซึ่งโดยมากจะไม่ส่งผลเสียต่อการตั้งครรภ์ค่ะ
• หรืออาจเป็นการแท้งค้าง คือแท้งไปแล้ว แต่ตัวอ่อนหรือทารกยังตกค้างอยู่ในครรภ์และยังไม่หลุดออกมา อาจทำให้มีของเหลวที่คล้ำไหลปะปนออกมากับเลือด ซึ่งกรณีนี้หากคุณแม่ไม่ได้ไปฝากครรภ์ และไม่ได้มีการตรวจอัลตราซาวนด์ครรภ์ ก็มักจะไม่รู้ตัวว่ามีการแท้งเกิดขึ้น
• หรือบางครั้งอาจเป็นสัญญาณของภาวะแท้งคุกคาม ซึ่งมักจะมีเลือดไหลออกมาทางช่องคลอดแม้ว่าปากมดลูกยังปิดอยู่ โดยเลือดนั้นอาจมีสีน้ำตาล หรือสีแดงสดก็ได้ค่ะ
หากคุณแม่พบว่ามีเลือดสีแดงสดไหลออกจากช่องคลอดในขณะตั้งครรภ์ ยังไม่ต้องคิดอะไรให้มากความค่ะ ให้รีบไปพบแพทย์ในทันที เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเลือดที่ไหลออกมานี้มันอันตรายหรือเปล่า จึงควรได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์เสียก่อน เพราะเลือดสีแดงสดนี้เกิดได้จากหลายปัจจัยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น
• สัญญาณของภาวะแท้งคุกคาม ซึ่งมักจะมีเลือดไหลออกมาทางช่องคลอดแม้ว่าปากมดลูกยังปิดอยู่ โดยเลือดนั้นอาจมีสีน้ำตาล หรือสีแดงสดก็ได้ค่ะ
• การมีเพศสัมพันธ์ กรณีที่มีเพศสัมพันธ์ที่อาจจะรุนแรง อาจทำให้มีเลือดสีแดงสดไหลออกจากช่องคลอดได้
• การแท้ง เลือดสีแดงที่ไหลออกมาจากช่องคลอด อาจหมายถึงการแท้งบุตรได้ค่ะ
เลือดออกในช่วงตั้งครรภ์อ่อน ๆ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุค่ะ ไม่ว่าจะเป็น
• การฝังตัวอ่อนของทารก ตอนที่ตัวอ่อนฝังตัวลงในมดลูกหลังจากการปฏิสนธิ อาจทำให้มีเลือดไหลออกมากะปริบกะปรอยเป็นสีแดงอ่อน ๆ
• การแท้ง อายุครรภ์ครรภ์ที่ยังไม่ครบ 12 สัปดาห์ เสี่ยงที่จะเกิดการแท้งสูง ดังนั้น หากมีเลือดออกในช่วงอายุครรภ์ในไตรมาสแรก อาจเป็นสัญญาณของการแท้งได้ค่ะ
• การตั้งครรภ์นอกมดลูก สามารถตรวจพบได้ในช่วงไตรมาสแรก ดังนั้น หากมีเลือดออกในระยะท้องอ่อน ๆ ให้รีบไปตรวจครรภ์ทันที เพราะท้องนอกมดลูกถือเป็นภาวะที่อันตรายถึงชีวิตต่อแม่และเด็ก
เลือดออกในช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ หากไม่ได้มีสาเหตุมาจากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรงจนเลือดออก โดยมากแล้วมักจะเป็นสัญญาณของความผิดปกติค่ะ ไม่ว่าจะเป็น
• การติดเชื้อในช่องคลอด ในช่วงไตรมาสที่ 3 คุณแม่อาจมีการติดเชื้อต่าง ๆ ในช่องคลอด และมีเลือดไหลออกมาทางช่องคลอดได้
• ภาวะรกเกาะต่ำ คือภาวะที่รกเลื่อนลงมาเกาะที่บริเวณปากมดลูกจากปกติจะอยู่ด้านบน ภาวะเช่นนี้จะทำให้มีเลือดออกทางช่องคลอด มักพบได้ในปลายไตรมาส 2 และช่วงต้นของไตรมาส 3
• ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด คือภาวะที่รกหลุดออกจากผนังมดลูกก่อนถึงกำหนดคลอด ซึ่งถือว่าอันตรายต่อทั้งแม่และทารกในครรภ์
• การคลอดก่อนกำหนด คุณแม่ที่มีเลือดออกก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์ ร่วมกับท้อง 37 สัปดาห์ ปวดจิมิ อาจเป็นสัญญาณของการคลอดก่อนกำหนด
• ปากมดลูกหลวม คือภาวะที่ปากมดลูกมีการขยายตัวเร็วเกินไป ทั้งที่ยังไม่ถึงกำหนดคลอด กรณีนี้เสี่ยงที่จะมีการคลอดก่อนกำหนด
• การแท้งบุตร ช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 คุณแม่หลายคนอาจเกิดการแท้งบุตรได้ ซึ่งการแท้งหลังอายครรภ์ 20 สัปดาห์ มักจะเรียกว่าการตายคลอด
ส่วนมากแล้วเลือดออกกะปริดกะปรอย มักจะเป็นเลือดที่เกิดจากการฝังตัวอ่อนในมดลูก อย่างไรก็ตาม คุณแม่ควรสังเกตอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย หากมีอาการปวดท้อง มีอาการปวดหน่วง ปวดเกร็ง คลื่นไส้ อาเจียน ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัย เพราะเลือดที่ไหลออกมานั้นอาจมาจากสาเหตุที่รุนแรงและไม่ได้เกิดจากการฝังตัวอ่อนในมดลูก
มากไปกว่านั้น เพื่อความปลอดภัยต่อแม่และเด็ก เมื่อมีเลือดออกขณะตั้งครรภ์ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที ไม่ว่าจะมีอาการใด ๆ ร่วมหรือไม่ก็ตาม เพราะเราไม่สามารถรู้ต้นสายปลายเหตุใด ๆ ได้เลย จนกว่าจะได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ค่ะ
เป็นไปได้ทั้งสองแบบค่ะ คืออันตราย และไม่อันตราย ซึ่งจะไม่สามารถรู้ได้จนกว่าคุณแม่จะไปเข้ารับการตรวจวินิจฉัยกับแพทย์ ซึ่งโดยมากแล้วเลือดออกขณะตั้งครรภ์มักเป็นภาวะความเสี่ยง ดังนั้น อย่าชะล่าใจค่ะ ให้รีบไปพบแพทย์ทันทีหากพบว่ามีเลือดออกทางช่องคลอดในตอนท้อง
ช่วงอายุครรภ์ไตรมาส 2 นี้ ส่วนมากแล้วมักจะเป็นสัญญาณอันตราย ซึ่งคุณแม่จะรู้ได้อย่างชัดเจนหลังจากไปเข้ารับการตรวจวินิจฉัยกับแพทย์
ขอย้ำตรงนี้อีกครั้งว่า เลือดออกขณะตั้งครรภ์อาจเกิดจากสาเหตุโดยทั่วไปที่ไม่อันตราย หรือเป็นสัญญาณอันตรายก็ได้ คุณแม่ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อจะได้รู้ถึงสาเหตุอย่างทันท่วงที
เลือดล้างหน้าเด็กมาตอนไหน จะไหลออกมาในช่วงที่ 6-12 วันหลังจากที่มีการตกไข่ โดยมักจะไหลออกมาก่อนหน้าที่จะถึงวันที่คาดว่าประจำเดือนจะมาราว ๆ 1 สัปดาห์ ซึ่งแน่นอนว่าเลือดล้างหน้าเด็กนั้นเกิดก่อนที่จะอายุครรภ์ครบ 2 แน่นอน
ดังนั้น หากพบว่ามีเลือดสีน้ำตาลไหลออกจากช่องคลอดในช่วงอายุครรภ์ 2 เดือน คุณแม่ควรไปเข้ารับการตรวจวินิจฉัยกับแพทย์ทันที เพื่อให้ทราบถึงสาเหตุและรับการรักษาได้ทันเวลาในกรณีที่เกิดภาวะอันตราย
เลือดออกในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์นั้นอาจมาเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ การแท้งบุตร หรือการตั้งครรภ์นอกมดลูกก็ได้ ซึ่งคุณแม่ไม่สามารถทราบได้เอง จนกว่าคุณแม่จะไปเข้ารับการตรวจวินิจฉัยกับแพทย์
ซึ่งถ้าหากเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ ก็ไม่ถือว่าอันตรายมากนัก แต่ถ้าเกิดจากการตั้งครรภ์นอกมดลูก นี่ถือเป็นสัญญาณอันตรายและจำเป็นจะต้องยุติการตั้งครรภ์ เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตของคุณแม่ค่ะ
เลือดสีน้ำตาลไหลออกจากช่องคลอดในช่วงอายุครรภ์ 3 เดือน เกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ อาจเกิดจากภาวะแท้งคุกคาม หรือการแท้งที่คั่งค้างแล้วตัวอ่อนยังไม่หลุดออกมาก็ได้ หรืออาจจะไม่ได้มีความผิดปกติใด ๆ ก็ได้ เป็นเพียงเลือดเก่าที่คั่งค้างและเพิ่งไหลออกมาก็ได้ หรืออาจเกิดความผิดปกติขึ้นกับมดลูกหรือทารกในครรภ์ก็ได้ แต่จะอันตรายมากน้อยแค่ไหน เราไม่สามารถทราบได้ จนกว่าคุณแม่จะได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ค่ะ
ท้อง 7 เดือน ถือเป็นช่วงสุดท้ายของการตั้งครรภ์ โดยจะอยู่ในไตรมาส 3 ซึ่งเลือดที่ไหลออกมาในระยะนี้ เกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น
• การมีเพศสัมพันธ์ในขณะตั้งครรภ์
• การติดเชื้อในช่องคลอด
• ภาวะรกเกาะต่ำ
• ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด
• การคลอดก่อนกำหนด
• ปากมดลูกหลวม
• การแท้งบุตร
ซึ่งไม่มีใครทราบได้ค่ะว่ากรณีของคุณแม่เกิดจากสาเหตุใด ดังนั้น หากมีเลือดออกตอนอายุครรภ์ 7 เดือน ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยทันทีค่ะ
เลือดออกในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ ส่วนมากมักไม่อันตรายค่ะ โดยอาจเป็นเลือดล้างหน้าเด็ก หรือเลือดที่ไหลออกมาหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ก็ได้
อย่างไรก็ตาม บางครั้งก็อาจเป็นสัญญาณของการแท้ง หรือความผิดปกติอื่น ๆ ได้ คุณแม่ควรไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยว่าเลือดที่ไหลออกมานิดหน่อยนั้น เสี่ยงอันตรายมากน้อยแค่ไหน
Enfa สรุปให้ ใบอัลตราซาวนด์ จะมีข้อมูลรายละเอียดเกือบทั้งหมดที่เกี่ยวกับทารกในครรภ์ ตั้งแต่อายุค...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ท่าทารกในครรภ์ ในช่วงอายุครรภ์ก่อน 35 สัปดาห์ จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด อาจจะนอนขว...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ท้องอ่อน ๆ ฉี่บ่อยแค่ไหน? คนท้องในไตรมาสแรกจะมีอาการปัสสาวะบ่อยเป็นปกติ โดยอาจปัสสา...
อ่านต่อ