ณ นครสุขสร้างสรรค์ มีหญิงชราคนหนึ่ง นั่งอยู่ที่ประตูเมือง คอยเฝ้ามองดูนักเดินทางที่ผ่านเข้าออกอย่างสุขุม บางทีนางก็เอ่ยทักทายหรือสนทนากับพวกเขาบ้าง
“พวกท่านมาจากไหนรึ”
“มีเด็กมาด้วยรึ จะพักตรงไหนของเมืองล่ะ”
“อ่า ร้านตรงหัวมุมนี้อร่อยและราคาถูกนะ อย่าลืมไปแวะล่ะจ๊ะ”
จนมาวันหนึ่ง ขณะที่ใกล้มืดเต็มที มีนักเดินทางหน้าตาดีคนหนึ่งท่าทางอิดโรยเนื่องจากเดินทางมาไกลมาก และได้มาหยุดยืนตรงหน้าหญิงชราด้วยความอ่อนเพลีย
“ขอโทษเถอะยาย ผมอยากจะหาที่พักค้างคืนสักหน่อย ยายช่วยบอกผมได้ไหมว่า ผู้คนในเมืองนี้มีนิสัยใจคออย่างไร หากผมจะอยู่ที่นี่นาน ผมจะได้นำไปพิจารณาครับ”
หญิงชรายิ้มและตอบด้วยการย้อนตั้งคำถามว่า
“ท่านคงมาไกล ดูท่าทางเหน็ดเหนื่อยนะ ท่านมาจากที่ใดรึ” หญิงชราถามอย่างอ่อนโยน
“จากเมืองพาราครับ”
“โอ ว่าแต่เมืองนั้น ผู้คนมีนิสัยใจคออย่างไรกันล่ะ” หญิงชราถามด้วยความสนใจ
“โอย ยายคงไม่เชื่อแน่ ผู้คนที่นั่นน่ากลัวมาก เขาไม่สนใจหรอกว่ายายจะหิวโหยแค่ไหน ไม่มีใครสนใจด้วยว่ายายจะพูดอะไร ยายไปขอความช่วยเหลือเขาก็จะหันหลังให้ทันที คนในเมืองนั้นหยาบคาย ไม่เป็นมิตรกับใครเลย” นักเดินทางหน้าตาดีกล่าวด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก
“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงล่ะก็ สงสัยว่าเมืองนี้ก็คงไม่ต่างจากเมืองนั้นหรอกพ่อหนุ่ม ที่นี่ผุ้คนมีนิสัยเหมือนคนในเมืองที่ท่านจากมา ยายไม่คิดว่าท่านจะชอบพวกเขาหรอกนะ” ยายกล่าว
“เห้อ ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องไปหาที่พักที่อื่นเสียแล้วล่ะ” นักเดินทางหน้าตาดีเดินจากไปด้วยความผิดหวัง
หลังจากผ่านไปได้ไม่นาน ก็มีนักเดินทางอีกคนหนึ่งมาที่ประตูเมือง เขายิ้มให้กับหญิงชราอย่างเป็นมิตรแล้วถามว่า
“ขอโทษเถอะครับ ผมอยากจะหาที่พักสักคืน ยายช่วยกรุณาเล่าให้ผมฟังหน่อยได้ไหมครับว่า ผู้คนเมืองนี้มีนิสัยใจคออย่างไรกัน”
หญิงชรายิ้มและตอบด้วยการย้อนตั้งคำถามว่า
“ท่านคงมาไกล ดูท่าทางเหน็ดเหนื่อยนะ ท่านมาจากที่ใดรึ” หญิงชราถามอย่างอ่อนโยน
“ผมมาจากเมืองพาราครับ”
“โอ ว่าแต่เมืองนั้น ผู้คนมีนิสัยใจคออย่างไรกันล่ะ” หญิงชราถามด้วยความสนใจ
“อ๋อ จิตใจของคนในเมืองนั้นดีมากเลยครับยาย ผมชอบพวกเขามาก ทุกคนล้วนเป็นมิตรพร้อมให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แต่พอผมย้ายที่ทำงาน ผมเลยต้องย้ายเมืองออกมาครับยาย”
“เข้าใจแล้วล่ะ” หญิงชรายิ้มอย่างอ่อนโยน
“ว่าแต่ยายยังไม่ตอบคำถามผมนะครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“ยายคิดว่าท่านคงจะได้รับการต้อนรับจากคนในเมืองนี้เป็นอย่างดีไม่แพ้เมืองที่ท่านจากมาหรอก เพราะผู้คนที่นี่ล้วนมีนิสัยใจคอที่เหมือนผู้คนในเมืองพาราเลยจ้า”
หญิงชราผู้นี้แท้จริงแล้ว เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการสร้างพลังบวกให้กับคนในเมือง จนได้รับการแต่งตั้งจากพระราชาให้เป็น รัฐมนตรีด้านสุขสร้างสรรค์ วิธีการคัดกรองคนเข้าเมือง รัฐมนตรีหญิงท่านนี้จะปลอมตัวเป็นหญิงชรา หรือไม่ก็ให้ใครที่มีความสามารถทำหน้าที่นี้แทนได้ ไปปฏิบัติภารกิจสำคัญนี้ที่ประตูเมือง เมืองนี้จึงเต็มไปด้วยผู้คิดบวกอันเป็นจุดเริ่มต้นของนครที่เต็มไปด้วยสุขสร้างสรรค์ เป็นนครที่ไม่มีใครคิดลบหรือคิดไม่ดีกับใครเลย
ณ นครสุขสร้างสรรค์ มีหญิงชราคนหนึ่ง นั่งอยู่ที่ประตูเมือง คอยเฝ้ามองดูนักเดินทางที่ผ่านเข้าออกอย่...
อ่านต่อกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีบัณฑิตผู้ยากจนคนหนึ่ง เขาคือเด็กหนุ่มผู้มีสติปัญญามาก เป็นทั้งนักกวีแถมย...
อ่านต่อจะมีใครสามารถอธิบายตัวตนที่แท้จริงของฉันได้บ้าง หลายคนพยายามหาคำตอบ ค้นคำอธิบาย แต่ก็ต้องล้มเหลวไ...
อ่านต่อ