กาลครั้งหนึ่ง ณ เมืองใหญ่ในนครวารี มีการจัดพิธีค้นหารัชทายาทเพื่อสืบราชบัลลังก์ต่อจากพระราชาองค์ปัจจุบันขึ้น ข่าวนี้แพร่สะพัดไปทั่วราชอาณาจักร มีผู้ที่มาสมัครเพื่อเป็นพระราชบุตรบุญธรรมมากมาย ด้วยหวังอยากจะเป็นพระราชาสืบทอดราชบัลลังก์ต่อไป
“คุณสมบัติคือ ต้องเป็นบุคคลที่มีความรักในศาสนา และรักเพื่อนบ้านของตนเท่านั้น” เสียงทหารที่กำลังขี่ม้าตะโกนร้องบอกประชาชน ก่อนที่ตนเองจะลงจากหลังม้าแล้วติดป้ายประกาศคุณสมบัติของผู้สมัคร
“ท่านทหารเจ้าขา แล้วอย่างลูกข้า ทั้งหล่อ ทั้งใจดี เรียนเก่ง แบบนี้ พอมีสิทธิ์ไหมเจ้าคะ”
“คุณสมบัติตามนี้เท่านั้น อ่านแล้วก็ส่งลูกหลานมาเข้ารับการคัดเลือกได้เลย” ทหารตะโกนบอก
ทุกคนในตลาดต่างตื่นเต้น และพูดคุยกันด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นเกี่ยวกับพิธีค้นหารัชทายาทครั้งนี้
เวลาผ่านไป พิธีค้นหารัชทายาทเพื่อสืบราชบัลลังก์ต่อจากพระราชาองค์ปัจจุบันยังคงดำเนินไปอย่างไม่สิ้นสุด พระราชาไม่พบผู้ที่มีคุณสมบัติเสียที
“ทำไมลูกข้าถึงไม่ผ่านล่ะ”
“ทำไมหลานข้าถึงตกรอบล่ะ”
“ทำไมทั้งลูกและหลานข้าถึงไม่มีใครได้สักคนเลยนะ”
ประชาชนในเมืองใหญ่ของนครวารี ต่างตั้งข้อสงสัย ว่า “ทำไม”
ไม่มีใครตอบได้ นอกจากพระราชาเท่านั้น แต่พระราชาก็ได้แต่ย้ำว่า ไม่มีใครมีคุณสมบัติเลย
วันหนึ่งมีเด็กหนุ่มชาวบ้านผู้ยากจนคนหนึ่งได้เห็นประกาศนี้เข้า ก็คิดว่า ตนเองคงไม่มีทางได้รับคัดเลือกเป็นพระราชบุตรบุญธรรมแน่ เพราะเสื้อผ้าที่สวมใส่ไม่ต่างจากผ้าขี้ริ้ว แต่ด้วยใจอยากจะเข้ารับการคัดเลือก เขาจึงพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ จนได้มา
เมื่อได้เสื้อผ้ามาแล้ว เขาก็นำมาสวมใส่และออกเดินทางไปยังพระราชวัง เพื่อที่จะสมัครเป็นพระราชบุตรบุญธรรมของพระราชา
แต่ในระหว่างทาง เด็กหนุ่มได้พบกับขอทานคนหนึ่งนั่งอยู่ใกล้ประตูพระราชวัง ชายชราผู้นั้นเนื้อตัวสกปรกและหนาวสั่น เด็กหนุ่มสงสารจึงถอดเสื้อผ้าชุดใหม่ที่เพิ่งได้มา ให้ชายชราใส่ และเด็กหนุ่มก็ใส่เสื้อผ้าสกปรกของชายชราผู้นั้นแทน
เด็กหนุ่มก้มลงมองตนเอง “กลับมาอยู่ในสภาพเดิมอีกแล้ว” แล้วถอนใจ แต่ในเมื่อออกเดินทางมาแล้วก็ควรเดินหน้าต่อไป เข้ารับการคัดเลือก เด็กหนุ่มเดินต่อจนมาหยุดอยู่ที่ประตูวัง
เมื่อมาถึง มีแต่ผู้คนใส่ชุดหรูหรา และพากันหัวเราะเยาะในสภาพที่เด็กหนุ่มเป็นอยู่ตอนนี้
“พระราชาเสด็จแล้ว”
เสียงดนตรีต้อนรับและผู้คนสรรเสริญ เด็กหนุ่มเมื่อเห็นพระราชาก็รู้สึกคุ้นตาขึ้นมาทันที
และเมื่อทุกคนเห็นพระราชาก็มีเสียงกระซิบที่ดังกึกก้องไปทั่วท้องพระโรงว่า
“พระราชาคือ ขอทานใส่เสื้อผ้าสกปรกที่นั่งอยู่ใกล้กับประตูวังนี่”
“พิธีค้นหารัชทายาทเพื่อสืบราชบัลลังก์ ได้สิ้นสุดลงแล้ว”
พระราชาพูดจบก็เดินลงจากบัลลังก์มาประคองเด็กหนุ่มยากจนไว้ในอ้อมแขน
“ขอต้อนรับลูกชายของข้า” ใช่แล้วพระราชาก็คือ ขอทาน และรัชทายาทของพระองค์ก็คือ ผู้ที่ยินยอมเสียสละของรักของตนเอง ความเสียสละไม่แบ่งแยกคือพื้นฐานความรักในศาสนา ส่วนการมอบของรักให้กับผู้ที่ไม่รู้จักคือการรักในเพื่อนบ้านของตน เด็กหนุ่มยากจนมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่พระราชาขอทานต้องการ
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นครวารีก็ได้รับการปกครองด้วยใจจากเด็กหนุ่มยากจน ที่ขณะนี้ได้กลายเป็น “พระราชา” บุตรบุญธรรมของพระราชาขอทาน
ณ นครสุขสร้างสรรค์ มีหญิงชราคนหนึ่ง นั่งอยู่ที่ประตูเมือง คอยเฝ้ามองดูนักเดินทางที่ผ่านเข้าออกอย่...
อ่านต่อกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีบัณฑิตผู้ยากจนคนหนึ่ง เขาคือเด็กหนุ่มผู้มีสติปัญญามาก เป็นทั้งนักกวีแถมย...
อ่านต่อจะมีใครสามารถอธิบายตัวตนที่แท้จริงของฉันได้บ้าง หลายคนพยายามหาคำตอบ ค้นคำอธิบาย แต่ก็ต้องล้มเหลวไ...
อ่านต่อ