กาลครั้งหนึ่ง ยังมีลำธารสายเล็ก ๆ สายหนึ่งเกิดขึ้นจากแหล่งต้นน้ำในป่าลึก ลำธารสายนี้แม้จะยังเด็กนักแต่ก็คอยบอกกับเพื่อนสัตว์ป่าว่า
“ฉันเป็นแหล่งน้ำประเภทหนึ่งน่ะ ทุกคนเรียกฉันว่าแหล่งกำเนิดของน้ำก็ได้ ฉันเป็นแหล่งน้ำที่ไหลมาจากผิวดินหรือซึมออกจากดิน ระบายสู่ลำน้ำ อย่างพวกคลอง หรือแม่น้ำโน้น นั่นก็มีส่วนที่เป็นน้ำจากฉันรู้ไหม ฉันไหลไปได้ทุกที่แหละ ฮ่า ๆ ๆ” ลำธารสายเล็กโอ้อวดแบบนี้ทุกวัน จนสัตว์เล็กสัตว์น้อยเหนื่อยที่จะฟัง
จนกระทั่งวันหนึ่ง ลำธารสายเล็กก็ไหลมาถึงขอบทะเลทรายที่กว้างใหญ่ไพศาล
“ฉันก็ผ่านไปได้เหมือนทุกทีอยู่ดีนั่นล่ะ” ลำธารกล่าวเสียงดัง ก่อนจะพุ่งตัวเข้าใส่ทะเลทราย
เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง ลำธารสายเล็กยังคงทำอยู่อย่างนั้น
แต่…ยิ่งทำเท่าไร น้ำก็เหือดหายไปจนหมดสิ้น น้ำนั้นหายไปในความว่างเปล่า และถูกทะเลทรายดูดกลืนไปอย่างอิ่มหนำสำราญ
“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร จะยิ่งใหญ่ไปกว่าธรรมชาติได้รึ เจ้าลำธาร” ทะเลทรายพูด
“ไม่ยอมแพ้หรอก จุดหมายที่ตั้งไว้ ต้องทำให้ได้ ต้องข้ามทะเลทรายไปให้ได้ ต้องหาทาง” ลำธารคิด
“เจ้าลำธารน้อยเอ๋ย เจ้าจะมัวแต่ใช้วิธีเดิม ๆ อย่างที่เคยใช้บนภูเขาสูงไม่ได้หรอกนะ เจ้าต้องรู้จักปรับวิธีคิด ลองใช้ประโยชน์จากสิ่งอื่นสิ” ทะเลทรายสอน
“ไม่!!! ข้านี่แหละอยู่เหนือทุกสิ่ง ข้าจะใช้สิ่งใดที่มีประโยชน์กว่าข้า หามีไม่” ลำธารยังดื้อ
“จริงรึ แต่เท่าที่ผ่านมา ข้าเห็นลำธารสายอื่น เคยข้ามข้าได้นะ แต่ไม่มีใครดื้ออย่างเจ้า” ทะเลทรายเตือน
“พวกเขาทำอย่างไรกัน” ลำธารน้อยสงสัย
“ก็ใช้สายลมไงล่ะ สายลมยังพัดผ่านทะเลทรายได้ ลำธารก็ทำได้เช่นกัน แต่เพียงแค่เจ้าจะต้องไว้ใจกระแสลม ให้ช่วยพัดพาเจ้าข้ามทะเลทรายอย่างข้าไปจะดีกว่านะ” ทะเลทรายแนะนำ
“ข้าเนี่ยนะจะยอมให้ลมอุ้มข้าข้ามเจ้า ฝันไปเถอะ ข้ายิ่งใหญ่ ดูแลทุกสิ่ง จะไปหวังให้ใครดูแลข้า มันไม่ใช่ข้าแล้วล่ะ” ลำธารน้อยผู้หยิ่งยโสกล่าว
“ไม่ใช่การอุ้มนะ แต่เป็นการที่เจ้าต้องซึมแทรกเข้าไปในกระแสลมต่างหาก เจ้าต้องยอมสูญเสียความเป็นตัวเองด้วยการซึมแทรกไปในกระแสของลมน่ะ” ทะเลทรายปลอบใจลำธารน้อย
“เชื่อเราเถอะ และไว้วางใจกระแสลม แล้วเจ้าจะไปอีกฟากฝั่งได้ เมื่อไปได้ เจ้าค่อยก่อตัวเป็นลำธารอีกสายหนึ่งไงเล่า” ทะเลทรายพูดต่อ
“หมายความว่า ในระหว่างที่อยู่กับกระแสลม เราจะไม่ได้เป็นลำธารแบบนี้เหรอ” ลำธารน้อยกังวล
“แล้วที่เจ้าพุ่งชนข้าอยู่แบบนี้ เจ้ายังเป็นลำธารสายเดิมได้อยู่ไหมล่ะ ชนไปเรื่อย ๆ เจ้าก็ค่อย ๆ แห้งเหือดไปอยู่ดี แต่หากเจ้ายอมที่จะให้กระแสลมพาเจ้าข้ามทะเลทรายไป ตัวตนของเจ้าจะถูกพาไปเกิดใหม่อีกฝั่ง และเมื่อถึงตอนนั้นเจ้าจะหลั่งไหลไปเกิดเป็นแม่น้ำอีกสายหนึ่งที่เจ้าอาจนึกไม่ถึงว่า เจ้าเคยยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ฝั่งนี้ก็ได้” ทะเลทรายผู้มากประสบการณ์ชี้แจงอย่างใจเย็น
“การเริ่มต้นใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมเหรอ แต่ต้องยอมสูญเสียความเป็นตัวเองทั้งหมดในตอนนี้ไปเหรอ แล้วก็ต้องไว้ใจลมที่ไหนก็ไม่รู้ด้วยเหรอ” ลำธารครุ่นคิดอย่างหนัก
ก่อนจะสูดลมหายใจลึกที่สุด “ฮึบ” และยอมให้พลังงานลมหอบเอาไอน้ำที่ระเหยขึ้นจากลำธารสายเดิมไป แรงของลมโอบอุ้มไว้ด้วยอ้อมแขนที่แข็งแรงและเปี่ยมด้วยความหนักแน่นเพื่อรองรับความไว้วางใจที่ลำธารมอบให้
“เหวอ….”
เสียงลำธารลุ้นในช่วงที่ตนเองนั้นลอยตัวขึ้นเหนือทะเลทรายอันแห้งแล้ง ก่อนจะถูกปล่อยอย่างนุ่มนวลลงยอดเขาลูกหนึ่งที่อยู่ไกลแสนไกล
ในตอนนั้น ลำธารสายเล็ก ๆ สายหนึ่งที่เคยเกิดขึ้นจากแหล่งต้นน้ำในป่าลึก และคุยโม้โอ้อวดกับสัตว์เล็กสัตว์น้อยทุกวัน บัดนี้ได้กลายเป็นลำธารที่เข้าใจความเป็นตัวตนที่แท้จริงของการเป็นสายธารแล้ว
ณ นครสุขสร้างสรรค์ มีหญิงชราคนหนึ่ง นั่งอยู่ที่ประตูเมือง คอยเฝ้ามองดูนักเดินทางที่ผ่านเข้าออกอย่...
อ่านต่อกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีบัณฑิตผู้ยากจนคนหนึ่ง เขาคือเด็กหนุ่มผู้มีสติปัญญามาก เป็นทั้งนักกวีแถมย...
อ่านต่อจะมีใครสามารถอธิบายตัวตนที่แท้จริงของฉันได้บ้าง หลายคนพยายามหาคำตอบ ค้นคำอธิบาย แต่ก็ต้องล้มเหลวไ...
อ่านต่อ