แสงแดดร้อนแรงแผดเผา แผ่นดินแตกร้าวด้วยความแห้งแล้ง ในห้วย หนอง คลอง บึง แห้งผาก ไม่มีน้ำหลงเหลืออยู่เลย ณ เวลานั้น ยังมีแม่กาและลูกๆทั้งเจ็ดตัวของมัน
♫ แม่กา ฉันคือแม่กา ลูกกา ฉันคือลูกกา (กา กา) กา การักรักกันทุกวัน กา การักรักกันทุกวัน บินไปบนฟ้ากว้างใหญ่ ไปไหนไปด้วยกัน (กา กา) ♫
แม่กาและลูกๆทั้งเจ็ดตัวของมันได้พยายามบิน บินหาน้ำดื่มด้วยความกระหายไปทั่วทุกหนทุกแห่ง แต่จนแล้วจนรอด ก็มองเห็นเพียงไอร้อนที่แผ่คลุมไปทั่ว ความแห้งแล้งครอบคลุมไปทั้งผืนดิน ลูกกาทั้งเจ็ดต่างพากันเหนื่อยอ่อน หิวกระหายน้ำเป็นอย่างมาก
(เสียงลูกการ้อง)
แม่กาจึงสอนลูกกาพร้อมจิกไปว่า
“แม่รู้ลูก แม่รู้ แต่ว่าในเวลาลำบากอย่างนี้ เราต้องอดทนมากขึ้นไปอีก จงสู้เพื่อชีวิตของเจ้านะ”
♫ ลูกเอ๋ย เจ้าจงหมั่นเพียร ลูกเอ๋ยขอจงพยายาม จงสู้อดทนในวันที่มืดมน เจ้าจะก้าวพ้นสู่วันที่ดี จงสู้อดทนในวันที่มืดมน เจ้าจะก้าวพ้นสู่วันที่ดี เราสู้อดทนในวันที่มืดมน เราจะก้าวพ้นสู่วันที่ดี เราสู้อดทนในวันที่มืดมน เราจะก้าวพ้นสู่วันที่ดี ♫
“ลูกๆจ๊ะ เราจะบินไปทางเหนือนั้นอีกหน่อย ถ้าเราไปทันเวลา แม่จำได้ว่าเคยมีบ่อน้ำที่ชาวบ้านขุดไว้นานมาแล้ว ที่นั่นเราจะได้กินน้ำกัน ไปกันเถอะลูก”
ลูกกาต่างเชื่อฟังแม่กาและพยายามกระพือปีกบินต่อไป
ในที่สุดแม่กาก็พาลูกๆของมันบินมาจนถึงบ่อน้ำบาดาลที่ว่านั้น แต่เมื่อมองลงไปในบ่อน้ำ น้ำนั้นกลับอยู่ลึกเกินไป
“แม่จ๋าเราจะทำยังไง”
“ลูกจ๋า พักตรงนี้ก่อน แม่ขอบินดูรอบๆ ก่อน”
แม่กาให้ลูกๆของมันพักเหนื่อย ส่วนตัวแม่กาเองก็บินวนดูไปรอบๆ แม่ว่าแม่กาจะเหนื่อยจนแทบขาดใจ แต่เพื่อลูกๆของมัน มันจึงต้องอดทนเพียรพยายามต่อไป แม่กาหวังว่าจะได้พบแหล่งน้ำสักแห่ง และความพยายามนั้นก็สำเร็จผล
แม่กามองเห็นเหยือกน้ำใหญ่วางอยู่ไม่ไกล มันร้องเรียกลูกๆทันที ลูกกาได้ยินเสียงแม่เรียกมันรีบบินตรงรี่มาทันที
(เสียงลูกการ้อง)
แต่ว่า ก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นอีกจนได้ แม่กาและลูกๆไม่สามารถกินน้ำตรงเหยือกนั้นได้ เพราะน้ำในเหยือกมีอยู่เพียงติดก้นเหยือกและปากเหยือกนั้นแคบมาก หากบินเข้าไปก็อาจติดอยู่ในนั้นได้ ก็จะเป็นอันตราย เจ้าลูกกาตัวสุดท้องเกิดหงุดหงดขึ้นมาที่ไม่สามารถกินน้ำได้ จึงไปคาบก้อนหินเล็กๆใส่เหยือกนั้นด้วยความโมโห
“นี่แน่ะ”
แม่กาได้สังเกตเห็นว่าเวลาโยนหินลงไปในน้ำดังจ๋อม ระดับน้ำในเหยือกก็เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนั่นก็หมายความว่ากาทุกตัวจะต้องช่วยกันคาบก้อนหินมาโยนลงไปในเหยือกน้ำ แล้วระดับน้ำก็จะสูงขึ้นๆ จนมาถึงปากเหยือกแล้วแม่กากับลูกกาก็จะสามารถกินน้ำในเหยือกได้โดยปลอดภัย แม่กาจึงสั่งให้ลูกๆของมันคาบก้อนหินทีละก้อนๆ โยนลงไปในเหยือกน้ำ
♫ ลูกเอ๋ย เจ้าจงหมั่นเพียร ลูกเอ๋ยขอจงพยายาม จงสู้อดทนในวันที่มืดมน เจ้าจะก้าวพ้นสู่วันที่ดี จงสู้อดทนในวันที่มืดมน เจ้าจะก้าวพ้นสู่วันที่ดี เราสู้อดทนในวันที่มืดมน เราจะก้าวพ้นสู่วันที่ดี เราสู้อดทนในวันที่มืดมน เราจะก้าวพ้นสู่วันที่ดี ♫
“นี่แน่ะๆๆๆๆๆๆ”
จากสิบก้อนเป็นยี่สิบก้อน เป็นสามสิบก้อนจนนับไม่ถ้วน พวกมันช่วยกันโดยไม่ยอมย่อท้อ จนในที่สุดระดับน้ำก็มาถึงปากเหยือก และแม่กากับลูกของมันก็สามารถกินน้ำดับความกระหายได้
“เย้ สำเร็จแล้ว”
“จำไว้นะลูก ถ้าเรามีความสามัคคีกันและอดทน มานะพยายามแบบนี้ต่อไป เราก็จบพอเจอแต่สิ่งที่ดี”
♫ ลูกเอ๋ย เจ้าจงหมั่นเพียร ลูกเอ๋ยขอจงพยายาม จงสู้อดทนในวันที่มืดมน เจ้าจะก้าวพ้นสู่วันที่ดี จงสู้อดทนในวันที่มืดมน เจ้าจะก้าวพ้นสู่วันที่ดี เราสู้อดทนในวันที่มืดมน เราจะก้าวพ้นสู่วันที่ดี เราสู้อดทนในวันที่มืดมน เราจะก้าวพ้นสู่วันที่ดี ♫
กาทุกตัวจึงได้กินน้ำเย็นฉ่ำสมใจ และมีชีวิตรอดปลอดภัย ผ่านพ้นช่วงเวลาที่เลวร้ายไปได้ในที่สุด
กา กา
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าการใช้สติปัญญาและความพยายามย่อมนำมาซึ่งความสำเร็จ
♫ แม่กา ฉันคือแม่กา ลูกกา ฉันคือลูกกา (กา กา) กา การักรักกันทุกวัน กา การักรักกันทุกวัน บินไปบนฟ้ากว้างใหญ่ ไปไหนไปด้วยกัน (กา กา)♫
♫ ลูกเอ๋ย เจ้าจงหมั่นเพียร ลูกเอ๋ยขอจงพยายาม จงสู้อดทนในวันที่มืดมน เจ้าจะก้าวพ้นสู่วันที่ดี จงสู้อดทนในวันที่มืดมน เจ้าจะก้าวพ้นสู่วันที่ดี เราสู้อดทนในวันที่มืดมน เราจะก้าวพ้นสู่วันที่ดี เราสู้อดทนในวันที่มืดมน เราจะก้าวพ้นสู่วันที่ดี ♫
ณ นครสุขสร้างสรรค์ มีหญิงชราคนหนึ่ง นั่งอยู่ที่ประตูเมือง คอยเฝ้ามองดูนักเดินทางที่ผ่านเข้าออกอย่...
อ่านต่อกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีบัณฑิตผู้ยากจนคนหนึ่ง เขาคือเด็กหนุ่มผู้มีสติปัญญามาก เป็นทั้งนักกวีแถมย...
อ่านต่อจะมีใครสามารถอธิบายตัวตนที่แท้จริงของฉันได้บ้าง หลายคนพยายามหาคำตอบ ค้นคำอธิบาย แต่ก็ต้องล้มเหลวไ...
อ่านต่อ