“ออกมาจากพื้นทรายเถอะ” เม็ดทรายร้องเรียกหอยนางรมน้อย “เธอน่ะ สวยกว่าใคร ไม่ต้องอายหรอก เธอคือหอยนางรมผู้งดงามนะ” เม็ดทรายเรียกอยู่นาน แต่ก็ไม่ได้ผล
หอยนางรมน้อยยังคงใช้ชีวิตของมันด้วยการซุกตัวอยู่ในพื้นทราย ไม่ก็เดิน ๆ คลาน ๆ เรื่อยเปื่อยอยู่ในก้นบึ้งแห่งท้องทะเลอย่างเงียบ ๆ
“ฉันอยากเป็นอะไรที่ไม่ใช่หอยนางรม อะไรก็ได้ ไม่ใช่แบบนี้” หอยนางรมบ่นพึมพำกับตัวเอง เพราะไม่อยากเป็นอย่างที่เป็น เพราะนางรู้ว่าความสวยของนาง จะนำมาซึ่งความตายได้
ในที่สุดกาลเวลาก็หมุนเวียนไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาถึงวันที่พระจันทร์เต็มดวง แสงจันทร์อันลอยเด่นสดใสได้สาดส่องลงไปจนถึงก้นทะเล แม้เป็นบริเวณที่มืดที่สุดก็ตาม และในท่ามกลางความลึกของท้องทะเลนั้น
“เอ๊ะ ๆ ฉันกำลังลอยขึ้นไปนี่ ไม่ ไม่ นะ ไม่ ไม่ ฉันจะอยู่แบบนี้ ไม่นะ โอ๊ะ ๆ ๆ”
แต่ไม่มีสิ่งใดยับยั้งได้เลย หอยนางรมเมื่อได้สัมผัสกับแสงจันทร์นั้น แสงนั้นก็ส่องทะลุเปลือกที่ทั้งแข็งและหนาเข้าไปสัมผัสถึงแก่นแห่งชีวิตของนาง ทำให้นางรู้สึกเหมือนถูกดึงดูดพลังด้วยพลังที่หนักแน่นกว่าเหมือนแม่เหล็ก ทำให้นางลอยขึ้นสู่ผิวน้ำเพื่อได้พบกับแสงแห่งดวงจันทร์อย่างเต็มที่
“ฉันเป็นอะไรไปนี่ จะกลับลงไปก็กลับไม่ได้ ใครก็ได้ช่วยที” เสียงร้องของหอยนางรมแผ่วเบาแต่ก็ยังทำให้ปลาหมึกได้ยินอยู่บ้าง
“ฮ่า ฮ่า เจ้ากำลังถูกครอบงำแล้ว จากความเจิดจรัสของลำแสงแห่งพระจันทร์ และความสว่างนี้จะชวนให้เจ้าต้องเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้หรอก เจ้าหอยนางรมเอ๋ย เจ้าก็ไม่ต่างจากข้าหรอก ข้าเองก็ต้องหาแสงไฟ มนุษย์ถึงชอบล่อข้าด้วยวิธีนี้ยังไงล่ะ ธรรมชาติก็อย่างนี้ล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ปลาหมึกพูดจบก็ดำผุดดำว่ายไปหาแสงไฟเพื่อจับปลาเล็ก ๆ กินต่อ
“ธรรมชาติเหรอ ไม่นะ โอ๊ะ ๆ ๆ” หอยนางรมคิดและก็ต้องแปลกใจที่รู้สึกว่า เปลือกหนา ๆ และ แข็ง มาก ๆ ของมันกำลังถูกคลี่ออกภายใต้มนต์ขลังของแสงจันทร์แสงเดิมนั้น และเมื่อเปลือกเปิดออก หอยนางรมรู้สึกว่า มันกว้างพอที่จะรับอณูแห่งแสงจันทร์เข้าไปไว้ในแก่นแห่งชีวิตอันเป็นนิรันดร์แล้ว
“ฉันรู้สึกเหมือนมีอะไรอยู่ในตัวฉัน!!!” พูดจบหอยนางรมก็ถูกเกลียวคลื่นดึงร่างให้กลับไปซุกอยู่ใต้พื้นทรายของท้องทะเลอีกครั้ง
“อะไรอยู่ในตัวฉัน!!!” หอยนางรมสงสัย
“ไข่มุกยังไงล่ะ” เพื่อนหอยนางรมด้วยกันกล่าว
ใช่แล้ว บัดนี้ไข่มุกได้ก่อตัวขึ้นภายในร่างกายของหอยนางรม และมันกำลังเจริญเติบโตขึ้นทีละน้อย อย่างช้า ๆ หลายปี ถึงแม้เวลาผ่านไปแต่หอยนางรมก็ไม่เคยลืมว่า นางมีสมบัติอันล้ำค่าที่ก่อเกิดด้วยแสงจันทร์นั้นมันกำลังอยู่ในกายของนางในตอนนี้
แต่ในที่สุด วันเศร้าก็มาถึง เมื่อหอยนางรมแก่ตัวลง กลายเป็นหอยนางรมเฒ่า
ณ ท้องทะเลผืนเดิม มีเรือหาปลาปรากฏขึ้น และก่อนที่นางจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง หอยนางรมเฒ่าก็ได้ตกลงไปอยู่ในร่างแหแห่งความตายเสียแล้ว หอยนางรมและพวก ถูกกวาดขึ้นจากใต้ท้องทะเล สู่ผิวน้ำ
หัวใจของนางดิ่งวูบ ไข่มุกที่ฝังอยู่ในร่างสั่นไปมาด้วยความกลัว ผวากับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
“คืนนี้ได้เยอะเลยนะ” เสียงคนหาปลาคุยกันอย่างอารมณ์ดี
เมื่อคลื่นลมสงบ ดวงจันทร์ซึ่งเปรียบได้กับราชินีแห่งไข่มุก ได้สาดแสงสว่างลงสู่ท้องทะเลอีกครั้ง แต่ครั้งนี้หอยนางรมเฒ่าไม่ได้อยู่ในท้องทะเลเหมือนเคยแล้ว น้ำตาของหอยนางรมเอ่อล้นออกมา เงยหน้ามองดวงจันทร์ครั้งสุดท้าย
“ดวงจันทร์สุดท้าย โอบอุ้มฉันไว้ในกายด้วยเถิด อย่าปล่อยฉันตาย ได้โปรดรับฉันด้วยรักของเธอ แม้ไม่มีสิทธิ์แตะต้องเธอ แต่เธอมีสิทธิ์แตะต้องฉัน ดวงจันทร์จ๋า” หอยนางรมเฒ่าร้องออกมาด้วยความเศร้า จากนั้นก็กลั้นหายใจ ขณะที่แสงจันทร์ที่เคยประคองนางไว้ จะเป็นผู้บรรจงเปิดฝาของนางขึ้นอย่างอ่อนโยน แต่ไม่เป็นเช่นนั้น กลับเป็นคนหาปลาผู้โหดเหี้ยมที่กระทำการนั้นอย่างโหดร้ายทารุณ ฝาของหอยนางรมถูกเปิดอย่างไม่ปรานี และถูกดึงไข่มุกออกไปอย่างแรง แต่ด้วยอำนาจของดวงจันทร์ บันดาลให้แรงดึงนั้นต้องพ่ายแพ้ด้วยแรงของหอยนางรมเฒ่า นางยังคงปลอดภัยและยังคงหายใจ แถมยังเก็บไข่มุกไว้ได้
คงเพราะท้องทะลที่สงบ ๆ อยู่ดี ๆ ก็กลับบ้าคลั่ง ถล่มเรือเสียแตกไม่เหลือชิ้นดี จากนั้นหอยนางรมเฒ่าจึงได้กลับไปซุกตัวอยู่ใต้ท้องทะเลอีกครั้ง
“ความสวย เกือบนำความตายมาให้” หอยนางรมคิดและร้องไห้เบา ๆ
แต่เชื่อไหม หอยนางรมเฒ่าก็ได้เรียนรู้ว่า หากยังไม่พบคนที่เหมาะสมกับความงดงามของไข่มุก ไข่มุกก็จะไม่ยอมมอบประโยชน์จากสมบัติอันล้ำค่าให้ ผู้ที่อนุญาตมีเพียงดวงจันทร์เท่านั้น ที่จะบอกได้ว่าถึงเวลาแล้วที่มันจะได้รับการใช้ประโยชน์จากผู้ที่เหมาะสม
ณ นครสุขสร้างสรรค์ มีหญิงชราคนหนึ่ง นั่งอยู่ที่ประตูเมือง คอยเฝ้ามองดูนักเดินทางที่ผ่านเข้าออกอย่...
อ่านต่อกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีบัณฑิตผู้ยากจนคนหนึ่ง เขาคือเด็กหนุ่มผู้มีสติปัญญามาก เป็นทั้งนักกวีแถมย...
อ่านต่อจะมีใครสามารถอธิบายตัวตนที่แท้จริงของฉันได้บ้าง หลายคนพยายามหาคำตอบ ค้นคำอธิบาย แต่ก็ต้องล้มเหลวไ...
อ่านต่อ